เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย Soft Skills

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาทำงานแทนบางลักษณะงานและบางตำแหน่งงานได้ Soft Skill จึงมีความจำเป็นในโลกการทำงานมากขึ้น เราจึงศึกษาว่า Soft Skill ใดที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานมากที่สุด
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย Soft Skills
Photo by Microsoft 365 / Unsplash

Soft Skill คือทักษะจำเป็นในการทำงาน

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาทำงานแทนบางลักษณะงานและบางตำแหน่งงานได้ Soft Skill จึงมีความสำคัญและจำเป็นในโลกการทำงานมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของ McKinsey ที่พบว่า ความต้องการทักษะทางอารมณ์และสังคมในองค์กรจะพุ่งสูงขึ้น แม้การพัฒนา Soft Skill จะท้าทายกว่า Hard Skill แต่ทักษะทั้ง 2 อย่างนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ

Soft Skill คือทักษะที่เกี่ยวข้องกับวิธีการทำงานและการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แม้ Soft Skill จะถูกมองว่าเป็นลักษณะนิสัยเฉพาะบุคคล แต่สามารถพัฒนาและเสริมสร้างได้ผ่านการฝึกฝนและใช้งานจริงเหมือนกันกับทักษะอื่น ๆ นักวิจัยพบว่า การฝึกอบรม Soft Skill ทำให้พนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มี Productivity สูงขึ้น และยังทำให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข ยิ่งไปกว่านั้นองค์กรสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้สูงถึง 250% อีกด้วย นอกจากนี้ผลสำรวจของ Deloitte พบว่า เกินกว่า 90% ของผู้ตอบแบบสอบถามตอบว่า Soft Skill มีความสำคัญต่อการรักษาพนักงาน การสร้างและพัฒนาภาวะผู้นำของพนักงาน และการส่งเสริมให้วัฒนธรรมองค์กรแข็งแรงยิ่งขึ้น

Soft Skill มีผลกระทบต่อองค์กรอย่างมีนัยสำคัญ หากองค์กรขาด Soft Skill ก็จะสร้างรอยร้าว เกิดความขัดแย้ง และกลายเป็นพฤติกรรม Toxic ในองค์กรได้ แต่ถ้าทุกคนในองค์กร (ทั้งผู้นำ หัวหน้างาน และพนักงาน) ฝึกฝนและพัฒนา Soft Skill จะทำให้ทุกคนทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพและมี Productivity เราจึงเกิดคำถามตามมาว่า Soft Skill ด้านไหนที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานมากที่สุด

ผลกระทบของ Soft Skill ในที่ทำงาน

กลุ่มตัวอย่างของเราประกอบด้วยพนักงานทั้งหมด 1,433 คน จากทั้งหมด 43 บริษัท เราพิจารณา Soft Skill 6 ทักษะ คือ การคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking), ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy), ความคิดริเริ่ม (Initiative-making), ภาวะผู้นำ (Leadership), การมองโลกในแง่ดี (Optimism), และการตระหนักในตนเอง (Self-awareness) โดยประเมินจากความถี่และความพยายามในการฝึกฝนทักษะผ่านการตอบคำถามหรือการให้ Feedback ในแต่ละวัน นั่นคือ ยิ่งฝึกฝนทักษะด้านใด ทักษะด้านนั้นก็ยิ่งพัฒนา

Soft Skill ส่งผลต่อความสามารถในการทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายและช่วยเหลือผู้คนรอบตัว จากรูปที่ 2 แกนตั้งหรือ การชื่นชมและมองเห็นคุณค่า (Recognition) จากหัวหน้างาน เป็นตัววัดประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ส่วนแกนนอนหรือ Recognition จากเพื่อนร่วมงาน เป็นตัววัดความมีประสิทธิภาพของโครงข่ายความสัมพันธ์ (Network Effectiveness) ซึ่งบ่งบอกว่าพนักงานคนนั้นมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือหรือสนับสนุนงานเพื่อนร่วมงานของพวกเขามากเพียงใด เมื่อนำ Recognition มาประมวลผล เราสามารถจัดกลุ่มพนักงานออกเป็น 4 กลุ่มได้ดังนี้

Marginalized: ได้รับ Recognition จากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานในระดับต่ำ

Under-utilized: ได้รับ Recognition จากเพื่อนร่วมงานในระดับต่ำแต่ได้จากหัวหน้างานในระดับสูง

Hidden Talent: ได้รับ Recognition จากเพื่อนร่วมงานในระดับสูงแต่ได้จากหัวหน้างานในระดับต่ำ

Superstars: ได้รับ Recognition จากหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานในระดับสูง

Soft Skill ใดที่ทำให้กลุ่ม Superstars มีประสิทธิภาพการทำงานดีเยี่ยม?

ผลการศึกษา พบว่า Empathy และ Leadership คือทักษะสำคัญที่สุดที่สนับสนุนให้การทำงานของกลุ่ม Superstar มีประสิทธิภาพ Empathy ช่วยให้พวกเขาเข้าใจปัญหาและความต้องการของผู้คนรอบตัว ทำให้แก้ไขปัญหาได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ Leadership สนับสนุนให้พวกเขากล้าที่จะเผชิญหน้าและตั้งคำถามกับสภาวะและสถานการณ์ปัจจุบัน ช่วยให้เข้าใจและมองเห็นภาพรวมที่กว้างขึ้น ดังนั้นทักษะสองทักษะนี้จึงช่วยเติมเต็มให้กลุ่ม Superstars ทำงานได้ดีและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้

💡
Empathy และ Leadership คือทักษะที่สำคัญที่สุดในการทำงานร่วมกับคนอื่น

นอกจากนี้ เรายังรวบรวมคะแนนความสุขรายวันและดัชนี WHO-5 Well-being ขององค์กรอนามัยโลก เพื่อนำมาศึกษาเพิ่มเติมถึงผลกระทบของ Soft Skill ที่มีต่อความสุขและ Well-being ของพนักงาน โดยสามารถติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบทความถัดไปของเรา

สมัครรับข่าวสารจาก Happily.ai เพื่ออ่านงานศึกษาเรื่องผลกระทบของ Soft Skill ต่อความสุขและ Well-being ก่อนใคร

วิธีพัฒนา Soft Skill ในที่ทำงานของคุณ

Soft Skill โดยเฉพาะ Empathy และ Leadership มีความสำคัญต่อความสุข Well-being ของพนักงาน และความสำเร็จขององค์กร เราขอแนะนำกลยุทธ์และวิธีการเพิ่ม Soft Skill ในที่ทำงานของคุณดังนี้

1. สำรวจทักษะที่ขาด
การทบทวนตนเองผ่านแบบทดสอบ 360 องศาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี การประเมินจากเพื่อนร่วมงานช่วยให้พนักงานค้นหาและจัดลำดับความสำคัญทักษะที่ต้องเพิ่มพูน และยังเข้าใจว่าจุดเด่นและโอกาสของตนคืออะไร

2. ทำให้ดูเป็นแบบอย่าง
ทักษะบางอย่างยากต่อการอธิบายหรือเรียนรู้ (เช่น การเจรจาต่อรองและ Empathy) การสังเกตและซึมซับจากตัวอย่างจึงเป็นวิธีการเรียบรู้ Soft Skill ลำดับต้น ๆ ดังนั้นผู้นำและหัวหน้างานจึงเป็นแบบอย่างหรือ Role Model สำคัญของการใช้ Soft Skill ในที่ทำงาน

3. สร้างโอกาสฝึกฝน
การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาทักษะใด ๆ การเรียนรู้ทักษะใหม่โดยที่ไม่นำมาใช้จริงหรือไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเป็นการเรียนรู้ที่ไม่ก่อให้เกิดผลสำเร็จ ผู้นำและหัวหน้างานต้องให้โอกาสพนักงานได้ใช้ทักษะที่ได้เรียนรู้มาใช้ในสถานการณ์จริง ยกตัวอย่างเช่น กิจกรรมนอกสถานที่ กิจกรรมแบบนี้นอกจากจะสนุกแล้ว ยังเป็นพื้นที่ปลอดความเสี่ยงสำหรับฝึกฝน Soft Skill อย่างการทำงานเป็นทีมและการพูดคุยสื่อสารกัน กิจกรรมที่เน้นการลงมือปฏิบัติ (Hands-on)เป็นอีกเครื่องมือที่ช่วยพนักงานฝึกทักษะการแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์ กิจกรรมเหล่านี้เต็มไปด้วยโอกาสให้พนักงานได้ฝึกฝนและพัฒนา Soft Skill

4. ให้ Feedback เป็นประจำ
เวลาเป็นปัจจัยหนึ่งในการพัฒนา Soft Skill เพราะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนพฤติกรรมของคน ชี้แนะแนวทางให้พนักงานพัฒนาทักษะด้วยการให้ Feedback เป็นประจำและเลี่ยงการลงโทษเมื่อทำผิดพลาด เพื่อทำให้มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย ที่พนักงานสามารถทดลองฝึกฝน Soft Skill ได้อย่างเต็มที่

5. สรรหาบุคคลที่มี Soft Skill ที่ต้องการ
LinkedIn พบว่า 89% ของผู้สรรหาและคัดเลือกบุคลากร (Talent acquisition professionals) บอกว่าพนักงานใหม่ที่ไปต่อกับองค์กรไม่ได้เพราะพวกเขาขาด Soft Skill ที่จำเป็นต่อการทำงาน การประเมิน Soft Skill ของผู้สมัครจึงสำคัญต่อองค์กร เทคนิคอย่างคำถามสัมภาษณ์ที่สร้างสถานการณ์ตัวอย่าง การสังเกตพฤติกรรมการสื่อสารของผู้สมัคร และการตรวจสอบแหล่งอ้างอิงยังเป็นเครื่องมือที่ใช้ได้ดี

Soft skills impact employee performance infographic

สรุป

Soft Skill คือทักษะความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นและในการบรรลุเป้าหมายองค์กร Empathy และ Leadership คือ ทักษะที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานอย่างมาก การเรียนรู้และพัฒนา Soft Skill ต้องการการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโอกาสใช้งานทักษะเหล่านี้ในสถานการณ์จริง

example of daily open-ended feedback in Happily
ตัวอย่างคำถามของ Happily ที่เชื่อมการฝึกฝน Soft Skill เข้ากับสถานการณ์จริง

เริ่มด้วยการสำรวจทักษะที่ขาด แสดงการใช้ Soft Skill ในที่ทำงาน สร้างโอกาสฝึกฝนและพัฒนาทักษะ ให้ Feedback บ่อยครั้ง และสรรหา Soft Skill จากผู้สมัคร ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรใช้ความรู้และทักษะเชิงเทคนิค หรือ Hard Skill ได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากปัญหาส่วนตัว ความขัดแย้งภายในองค์กร รวมไปถึงวัฒนธรรมองค์กรที่ Toxic


Happily.ai ช่วยคุณพัฒนา Soft Skill ในที่ทำงานได้นะ

Happily.ai ช่วยองค์กรเพิ่มพูน Soft Skill ด้วยการสร้างโอกาสให้พนักงานฝึกฝน Soft Skill ประกอบด้วย Critical Thinking, Empathy, Initiative-making, Leadership, Optimism และ Self-awareness ผ่านการตอบคำถามและให้ Feedback รายวัน ไม่มีทางลัดใดในการพัฒนาทักษะเหล่านี้ แต่เราช่วยคุณประกอบชิ้นส่วนสำคัญเข้าด้วยกัน (ภายในไม่กี่วัน ไม่ใช่หลักเดือน!) เราขอเชิญคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อเรียนรู้วิธีการเปลี่ยนพฤติกรรมในที่ทำงานของคุณ ให้ความสำคัญกับ Soft Skill ได้ตั้งแต่วันนี้!

แหล่งอ้างอิง:

https://business.linkedin.com/talent-solutions/blog/recruiting-strategy/2019/soft-skills-are-hard-to-assess-but-these-6-steps-can-help

https://michiganross.umich.edu/alumni/dividend/fall2017/hard-facts-about-soft-skills

https://www2.deloitte.com/us/en/insights/focus/human-capital-trends/2016.html

https://www.weforum.org/agenda/2021/06/defining-the-skills-citizens-will-need-in-the-future-world-of-work

Subscribe to Smiles at Work | The Official Happily.ai Blog newsletter and stay updated.

Don't miss anything. Get all the latest posts delivered straight to your inbox. It's free!
Great! Check your inbox and click the link to confirm your subscription.
Error! Please enter a valid email address!