นวัตกรรมที่ส่งเสริมการทํางานเป็นทีมแบบทางไกล

การทํางานทางไกล (Remote Work) หรือการทํางานจากที่บ้าน (Work From Home) เป็นหนึ่งในเทรนด์นวัตกรรมของ HR ระหว่างปี 2020 - 2021 และในปี 2022 นี้ได้มีการทำงานที่เป็นแบบ Hybrid กันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งยังคงมีรูปแบบการทำงานทางไกลผสมผสานอยู่
นวัตกรรมที่ส่งเสริมการทํางานเป็นทีมแบบทางไกล
Photo by Nicolas Solerieu / Unsplash

การทํางานทางไกล (Remote Work) หรือการทํางานจากที่บ้าน (Work From Home) เป็นหนึ่งในเทรนด์นวัตกรรมของ HR ระหว่างปี 2020 - 2021 โดยที่ทุกองค์กรได้มีการดําเนินการมากขึ้นเมื่อโลกเราเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2020 โดยก่อนหน้านี้ผลการศึกษาจาก International Working Group (IWG) ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการทํางานแบบทางไกลไม่มีข้อยกเว้นใดๆ อีกแล้ว และตอนนี้ได้กลายเป็นภาวะปกติใหม่ (New Norm) ในทั่วทุกประเทศและทุกอุตสาหกรรม และปัจจุบันในปี 2022 นี้ได้มีการทำงานที่เป็นแบบ Hybrid กันเพิ่มมากขึ้นหลังผ่านพ้นวิกฤตมา ซึ่งยังคงมีรูปแบบการทำงานทางไกลผสมผสานอยู่

ในประเทศไทยเองที่การทํางานแบบทางไกล หรือการทํางานจากที่บ้านยังไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก แต่เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทําให้หลายองค์กรต้องมีการปรับรูปแบบการทํางานให้พนักงานสามารถทํางานจากที่บ้านได้ และเมื่อการแพร่ระบาดได้คลี่คลายลงบ้างแล้ว พนักงานบางส่วนก็สามารถกลับมาทํางานที่สถานที่ทํางานได้ แต่ก็ยังคงมีบางส่วนที่ยังคงทํางานจากที่บ้านอยู่ และจากรายงานข้อมูลการเดินทางของบุคคลในชุมชนสําหรับสถานการณ์โควิด-19 จาก Google ประจําวันที่ 6 กันยายน 2020 จะเห็นได้ว่าแนวโน้มสถิติการเดินทางไปทํางานยังตํ่ากว่าเกณฑ์พื้นฐานถึง 18%

ความท้าทายขององค์กรเกี่ยวกับการจัดการการทำงานแบบทางไกลหรือทำงานจากที่บ้าน (WFH)

  • การสื่อสารนโยบายและวิธีการในการทำงานจากที่บ้านของพนักงานเพื่อกำหนดเป็นแนวทางปฎิบัติ เช่น เวลาในการทำงาน, การประเมินประสิทธิภาพการทำงาน, ความปลอดภัยทางด้านข้อมูล, และอื่น ๆ
  • ความพร้อมในการใช้เทคโนโลยี ไม่เพียงแต่เรื่องอุปกรณ์เครื่องมือหรืออินเตอร์เน็ต เรื่องนี้ยังรวมไปถึงการใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในการเข้ามาช่วยการทำงานแบบทางไกล เช่น การประชุมออนไลน์, ช่องทางการสื่อสารในทีมหรือในองค์กร, การแชร์ข้อมูลต่าง ๆ เป็นต้น
  • วัฒนธรรมการทำงานแบบออนไลน์ พนักงานต้องมีความรู้ความเข้าใจในการทำงานแบบออนไลน์ ตัวอย่างเช่น วิธีการแชร์ข้อมูล การมีวินัยในการทำงาน เป็นต้น
  • ทัศนะคติการทำงาน และความสามารถในการทำงานทางไกล พนักงานไม่ยึดติดกับวิธีการทำงานแบบเดิม ๆ พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และรับมือการเปลี่ยนแปลงที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว

เครื่องมือทางเทคโนโลยีดิจิทัลส่งเสริม Remote Work และ WFH

การประชุมออนไลน์
โปรแกรมเพื่อการประชุมออนไลน์ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มมากมายให้บริการการประชุมออนไลน์ ได้แก่ Zoom, Microsoft Team, Cisco WebEx, Google Meet, และ Around

การติดต่อสื่อสารและเช็คอิน
โปรแกรมเพื่อการติดต่อสื่อสารและเช็คอินสมาชิกในทีมหรือในองค์กร ที่ใช้ในการตอบโต้กันในทันที ได้แก่ Line, Facebook Messenger, Slack, และ Google Hangout

การทํางานร่วมกันในออฟฟิศ
โปรแกรมสํานักงานในการทํางานร่วมกัน โดยสามารถแก้ไขงานพร้อมกันได้ ทํางานบนระบบคลาวด์ ได้แก่ Google G-Suite และ Microsoft Office 365

ระบบรวบรวมไฟล์หรือเอกสารงานต่างๆ
ระบบรวบรวมไฟล์หรือเอกสารงานต่างๆ มีการใช้ไฟล์ส่วนใหญ่ร่วมกันที่สามารถเข้าถึงได้โดยมักจะใช้ระบบคลาวด์อย่าง Google Drive, Dropbox, Onedrive, และ Coda

การบริหารจัดการงานโครงการ
โปรแกรมบริหารการจัดการงานโครงการ เพื่อให้องค์กรสามารถบริหารจัดการการทํางานของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทราบความคืบหน้า งานคงค้าง หรืองานที่วางแผนเพิ่มเติม ซึ่งจะมีโปรแกรมที่น่าสนใจอาทิเช่น Trello, Microsoft Team, Asana, หรือ Notion

การจัดหาเครื่องมือที่เหมาะสมให้พนักงานที่มีการทำงานแบบ Remote Work, WFH หรือแม้กระทั่ง Hybrid Work เป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญอย่างมากในการช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และองค์กรสามารถเติบโตแบบยั่งยืนด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีและคนกับการทำงานเข้าด้วยกัน

Happily.ai | The magic behind happy, high-performing teams
Enable your teams to perform their best. Get the employee engagement, embedded values, and positive relationships that create a workplace people love

Subscribe to Smiles at Work | The Official Happily.ai Blog newsletter and stay updated.

Don't miss anything. Get all the latest posts delivered straight to your inbox. It's free!
Great! Check your inbox and click the link to confirm your subscription.
Error! Please enter a valid email address!