Performance Management นั้น เป็นคำยอดฮิตในวงการของการบริหารจัดการลูกน้อง ด้วยการใช้ระบบในการวางแผน ติดตาม จัดการผลอย่างเข้มงวด เป็นระบบ เพื่อนำไปสู่ผลลัพท์ที่ต้องการ รวมถึงการที่ “เชื่อกันว่า” การบริหารแบบนี้จะช่วยในการ Motivate หรือ สร้างพลังขับเคลื่อน ในการสร้างสรรค์ผลงานที่ตรงกับเป้าหมายของทางฝ่ายบริหาร รวมถึงตัวองค์กรในองค์รวม

แต่วิธีการนี้นั้น ก็มักจะถูกเหล่า experts ด้านการบริหารรุ่นใหม่ๆติติงถึงข้อจำกัด และผลร้ายจากการนำเอามาใช้งานในการบริหารจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำให้พนักงานติดกับกรอบการวัดผล จนทำงานเหมือนหุ่นยนต์ ไม่มีอะไรใหม่ๆ, การบ่มเพาะพฤติกรรมที่ไม่ดี, การทำลายการทำงานเป็นทีมของพนักงาน ทำให้พนักงานนั้นจดจ่ออยู่กับตนเอง, ตลอดไปจนถึง เป็นการบีบอ้อมๆให้พนักงานเล่นการเมืองภายในมากขึ้น ทุกอย่างเนื่องมาจาก Mindset ของตัวระบบเองที่มุ่งเน้นว่า ถ้าไม่บังคับคนจะไม่ทำงาน หรือทำงานไม่ดี โดยขาดการมองใน factors อื่นๆ เช่น การที่พนักงานทำงานได้ดีนั้น เพราะมาจากการวางเป้าหมายร่วมกัน มีวัฒนธรรมร่วมกัน มีความผูกพันกับตัวงานและองค์กร (Employee Engagement)

อ้างอิงจากบทความของ Pia-Maria Thoren ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการบริหารแบบ Agile รวมทั้งเป็นนักฝีกอบรม Agile Leadership จาก Cornerstone คุณสามารถใช้สิ่งเหล่านี้แทนที่การบริหารแบบ Performance Management ได้ โดยทางเราได้คัดเอาบางส่วนมาลงไว้ให้ได้ศึกษาเรียนรู้กัน ณ ที่นี้

การโค้ชชิ่งและการให้ฟีดแบ็กอย่างต่อเนื่อง (Continuous Feedback and Coaching)

เพราะคนเราไม่เคยเรียนครั้งเดียวแล้วจบ ในการทำงานนั้นจะต้องมีการเรียนรู้ทั้งจากสิ่งที่เวิร์กและไม่เวิร์ก มีการปรับตัวไปเรื่อยๆ แต่ในการเรียนรู้เพื่อเติบโตก้าวหน้านั้นจำเป็นที่จะต้องได้รับการโค้ชชิ่ง หรือ การดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ทำหน้าที่ในตรงจุดนี้มักจะเป็นผู้จัดการ หรือ หัวหน้างาน

และในการช่วยดูแลฝึกฝนจากผู้รับผิดชอบนั้นเอง จะต้องมีการส่งมอบข้อติชมในรูปแบบของฟีดแบ็ก (Feedback) ให้แก่กันอย่างสม่ำเสมอ นับเป็นการสร้าง Growth Mindset หรือ นิสัยรักการเติบโต ซึ่งในตรงจุดนี้ คุณสามารถศึกษาได้จากบทความของเราว่า การให้ Feedback เป็นประจำทุกวันนั้นช่วยสร้างสรรค์งานไปในทางบวกได้อย่างไร

การส่งเสริมด้านการพัฒนาและเรียนรู้ (Learning and Development)

ในยุคสมัยใหม่นั้น การเรียนจบก็ไม่ถือว่าจบ และในการทำงานนั้นก็มักจะมีการถูก disrupt ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือเหตุการณ์ในแนวที่ไม่เคยพบเคยเจอกันตลอดเวลา ซึ่งก็แน่นอนว่าเป็นการบีบให้ทุกคนต้อง Upskill ตลอดเวลา แต่ถ้าธุรกิจของคุณไม่ส่งเสริมการ Upskill ให้ก้มหน้าก้มตาทำงาน เน้นอยากเห็น performance สูงๆ ตัวเลขดีๆจัดๆ ตลอดนั้น ท้ายสุดแล้วคุณอาจจะโดน disrupted ทางธุรกิจจนไม่สามารถเห็นตัวเลขเหล่านั้นได้อีก รวมถึงพนักงานจะมองว่า ตัวองค์กรนั้นอยู่นานๆจะทำให้พวกเขาเป็นไม้ตายยืนต้นถ้าทำไปเรื่อยๆ จนนำไปสู่การตัดสินใจลาออกไปหาที่ใหม่ที่สนับสนุนแทน

การส่งเสริมการพัฒนาและเรียนรู้นั้นนอกจากจะทำให้คุณได้พนักงานที่มีศักยภาพสูง มีความร้อนวิชาอยากพิสูจน์สิ่งที่เรียนรู้มาแล้ว ยังจะช่วยให้องค์กรนั้นเติบโตไปได้ไกลอีกด้วย

การจัดสรรรางวัลตอบแทน (Compensation)

คุณลองนึกภาพว่า ทำงานแทบตายเงินก็ไม่ได้ ของพิเศษอะไรก็ไม่มีจะรู้สึกอย่างไร?

แน่นอนว่ากำลังใจต้องสูญเสียในระดับที่ ไม่อยากจะทำอะไรอีกแล้วอย่างแน่นอน

ดังนั้น ในการบริหารรูปแบบใหม่ที่เน้นด้านการสร้างพลังใจก็เช่นกัน จะต้องมีการวางแผนและปฏิบัติในการให้รางวัลแทนความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งในการจัดการระบบการให้ของขวัญ ตลอดจนสวัสดิการตอบแทนต่างๆนั้น อาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อน โดยเฉพาะในองค์กรใหญ่ๆที่มีพนักงานจำนวนมาก โดยคุณอาจนำเอาระบบ Reward Management ที่มาพร้อมกับ Flexi-Rewards หรือรางวัลแบบยืดหยุ่นได้ตามความชื่นชอบของพนักงาน เข้ามาใช้งาน

การมอบความชื่นชมกันระหว่างพนักงาน (Peer Recognitions)

ในการบริหารแบบปกตินั้น การมอบคำชมมักจะเป็นแบบ Top Down จากบนลงล่าง จากผู้จัดการสื่อมาถึงลูกน้อง เป็นต้น แต่การให้คำชื่นชมแบบนี้มักจะค่อนข้าง private และไม่ได้สร้างพลังแห่งความยินดีที่ช่วยขับเคลื่อนทีมมากเท่าที่ควร อีกทั้งอาจยังส่งผลตรงกันข้ามต่อผู้ได้รับคำชม ที่อาจทำให้เพื่อนร่วมทีมรู้สึกว่า พวกเขาโดนเลือกปฏิบัติ

แต่ถ้าคุณลองปล่อยให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้จัดการเอง ลูกทีม หัวหน้าทีม ชื่นชมกันเองอย่างมีอิสระเสรี แล้วคุณจะพบว่า บรรยากาศในการทำงานนั้รจะดีขึ้นมาก โดยเราได้ทำการศึกษาวิจัยผ่านทางการใช้ แอป Happily.ai จากความร่วมมือของบริษัทต่างที่ใช้งาน จนได้ผลพิสูจน์ว่า การใช้ระบบ Peer Recognition นั้น นำพาไปสู่บรรยากาศการทำงานที่ดี และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในภาพรวมจริงๆ

ถ้าคุณพร้อมที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง และกำลังมองหาเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณจัดการปัจจัยต่างๆตามที่กล่าวมาข้างต้น ทางเราแนะนำ Happily.ai เครื่องมือการบริหารจัดการที่ครบครัน พร้อมฟีเจอร์ต่างๆที่ตอบสนอง action plan ในการสร้างองค์กรที่ พนักงานทำงานดี มีความสุข ของคุณอย่างครบถ้วนจบที่เดียว โดยคุณสามารถทดลองใช้ได้ฟรี

ทดลองระบบใหม่ ที่จะช่วยทดแทนการใช้ PMS อย่างทันยุคทันสมัย คลิ๊กเพื่อลงทะเบียน
Share this post